ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับของภาพยนตร์

ความหมายของภาพยนตร์

ภาพยนตร์ คือ กระบวนการบันทึกภาพด้วยฟิล์ม แล้วนำออกฉายในลักษณะที่แสดงให้เห็นภาพเคลื่อนไหว ภาพที่ปรากฏบนฟิล์มภาพยนตร์หลังจากผ่านกระบวนการถ่ายทำแล้วเป็นเพียงภาพนิ่งจำนวนมาก ที่มีอิริยาบถหรือแสดงอาการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยต่อเนื่องกันเป็นช่วงๆ ตามเรื่องราวที่ได้รับการถ่ายทำและตัดต่อมา ซึ่งอาจเป็นเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หรือเป็นการแสดงให้เหมือนจริง หรืออาจเป็นการแสดงและสร้างภาพจากจินตนาการของผู้สร้างก็ได้

ประวัติของภาพยนตร์

ผู้ที่คิดประดิษฐ์ ต้นแบบของภาพยนตร์ขึ้นคือ โทมัส แอลวา เอดิสัน (Thomas Alva Adison) และผู้ร่วมงานของเขาชื่อ วิลเลียม เคนเนดี้ ดิคสัน (William kenady dickson) เมื่อ พ.ศ. 2432 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกชื่อว่า “คิเนโตสโคป” (Kinetoscope) มีลักษณะเป็นตู้สูงประมาณ 4 ฟุต มักเรียกชื่อว่า “ถ้ำมอง” มีลักษณะการดูผ่านช่องเล็กๆ ดูได้ที่ละคน ภายในมีฟิล์มภาพยนตร์ซึ่งถ่ายด้วยกล้องคิเนโตกราฟ (Kenetograph) ที่เอดิสันประดิษฐ์ขึ้นเอง ฟิล์มยาวประมาณ 50 ฟุต วางพาดไปมา เคลื่อนที่เป็นวงรอบ ผ่านช่องที่มีแว่นขยายกับหลอดไฟฟ้าด้วยความเร็ว 48 ภาพต่อวินาที ต่อมาลดลงเหลือ 16 ภาพต่อวินาที

ต่อมาพี่น้องตระกูลลูมิแอร์ (Lumiere) ชาวฝรั่งเศสได้ พัฒนาภาพยนตร์ถ้ำมองของเอดิสันให้สามารถฉายขึ้นจอขนาดใหญ่ และดูได้พร้อมกันหลายคน เรียกเครื่องฉายภาพยนตร์แบบนี้ว่า แบบ “ซีเนมาโตกราฟ” (Cinimatograph) ซึ่งถือว่าเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2438 ต่อมาได้นำออกมาฉายตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกตั้งแต่ พ.ศ. 2439 เป็นต้นมา ซึ่งคำว่า “ซีเนมา” (Cenema) ได้ใช้เรียกเกี่ยวกับภาพยนตร์มาถึงปัจจุบัน

ภาพยนตร์ที่สามารถฉายภาพให้ปรากฏบนจอขนาดใหญ่ ได้พัฒนาสมบูรณ์ขึ้นในอเมริกาในปี พ.ศ. 2438 โดยความร่วมมือระหว่าง โทมัส อาแมท (Thomas Armat) ซีฟรานซิส เจนกินส์ (C. Francis Jenkins) และเอดิสัน เรียกเครื่องฉายภาพยนตร์ชนิดนี้ว่า ไบโอกราฟ (Bioghraph) ในเวลาต่อมา หลังจากนั้นภาพยนตร์ได้แพร่หลายไปในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เกิดอุตสาหกรรมการผลิตจำหน่ายและบริการฉายภาพยนตร์ขนาดใหญ่หลายแห่ง ทั้งในอังกฤษ ฝรั่งเศสและอเมริกา ภาพยนตร์ได้กลายเป็นสื่อถ่ายทอดเหตุการณ์ ศิลปการบันเทิงและวรรณกรรมต่างๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางตลอดมา

พ.ศ. 2440 พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป ซึ่งในครั้งนั้นได้มีช่างภาพของบริษัทลูมิแอร์ ประเทศฝรั่งเศส บันทึกภาพยนตร์การเสด็จถึงกรุงเบอร์นของพระเจ้ากรุงสยามไว้ 1 ม้วน ใช้เวลาประมาณ 1 นาที นับว่าเป็นการถ่ายภาพยนตร์ม้วนแรกของโลกที่บันทึกเกี่ยวกับชนชาติไทย

ภาพยนตร์ในปัจจุบันมีการเผยแพร่อยู่ 4 ทางคือ ฉายตามโรงภาพยนตร์ ภาพยนตร์กลางแปลง และภาพยนตร์เร่ ถ่ายทอดลงแผ่น VCD, DVD และ Blu-ray Disc เผยแพร่ทางโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ต

1ภาพจาก Arrival of Train at La Ciotat

ประเภทของภาพยนตร์

  1. Action หมายถึง เป็นภาพยนตร์ ที่จะมีฉากต่อสู้ การไล่ล่า ไล่ยิง ระเบิด เป็นจุดขาย รวมถึงมีฉากต่อสู้ ซึ่งบางทีอาจจะมีความเหนือจริงอยู่ด้วย
  2. Adventure หมายถึง ภาพยนตร์แนวผจญภัยเข้าป่า ล่าขุมทรัพย์ เจออุปสรรคมากมาย รวมถึงต้องมีการแก้สถานการณ์ต่างๆ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ชอบความท้าทาย
  3. Animation หมายถึง ภาพยนตร์แนวการ์ตูนซึ่งมีทั้ง 2d และ 3d ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเด็กๆ
  4. Comedy ภาพยนตร์ตลก เบาสมอง เหมาะกับคนที่ต้องการดูเพื่อการพักผ่อน ไม่ต้องคิดอะไรมาก
  5. Crime ภาพยนตร์อาชญากรรม แนวการแก้ไข ต่อสู้กับคดีต่างๆ ของตำรวจ
  6. Documentary ภาพยนตร์แนวสารคดีที่ดูไปด้วย ได้สาระไปด้วย
  7. Drama ภาพยนตร์ชีวิต ที่จะได้ความรู้สึกซึ้งเศร้า เคล้าน้ำตา ทำให้นึกถึงชีวิตคนจริงๆ บางเรื่องดูแล้วเครียด บางเรื่องก็เศร้ามากๆ แต่พอหนังจบก็โล่งหัว ถ้าเกิดยิ่งดูยิ่งเครียดก็อย่าดูมันเลยครับ
  8. Erotic เป็นภาพยนตร์ที่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอายุไม่ถึง 18 ปี เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเพศ ในประเทศไทยไม่มีเพราะทำออกมาก็ไม่ผ่านการเซ็นเซอร์
  9. Family ภาพยนตร์แนวครอบครัว เกี่ยวกับความรักในครอบครัว ทำให้ดูแล้วรู้สึกอบอุ่น ดูได้ทุกคนในครอบครัว
  10. Fantasy ภาพยนตร์ที่มีการผสมจินตนาการแบบที่เราๆ ไม่ค่อยเห็นในชีวิต จะเรียกว่า เหนือจริงก็ได้ เด็กๆ หลายคนชอบจนถึงขั้นติดเลย เช่น เกี่ยวพ่อมดแฮรี่ และอีกหลายเรื่อง
  11. Film-Noir ภาพยนตร์ที่เน้นการใช้ภาพเป็นตัวสื่อเนื้อหา ดูง่ายหรือยากขึ้นอยู่กับบุคคล ทีมีประสบการณ์มาก่อน ถ้าหากมีเวลาว่างๆ จริงๆและสมาธิดีๆ ก็ลองหามาชมดู ได้รสชาติอีกแบบที่น่าลอง
  12. Musical ภาพยนตร์เพลง เช่น ชิคาโก ประเทศไทยยังไม่มีให้เห็นเป็นเรื่องเป็นราวสักเรื่อง แต่ก็ยากที่จะทำให้มีรายได้เพราะความนิยมของคนแนวนี้ไม่มาก
  13. Mystery เป็นภาพยนตร์แนวลึกลับ หาข้อพิสูจน์ไม่ได้ ทำให้ผู้ชมดูไปรู้สึกลุ้นไป มีปริศนามากมายในเรื่อง
  14. Romance ภาพยนตร์แนวรักโรแมนติก เหมาะสำหรับคนที่กำลังมีความรัก ทำให้ดูแล้วมีความสุข อาจจะผสมๆความตลกลงไปในหนังด้วยก็ได้
  15. Sci-fi ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาอ้างอิงวิทยาศาสตร์ และผสมผสานจินตนาการเข้าไป ซึ่งทำให้บางทีผู้ชมอาจจะดุไม่รู้เรื่อง ต้องตั้งใจดู
  16. Thriller ภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวน ที่มีการผูกเรื่องให้น่าติดตาม ชวนให้คนดูคิดตามว่าตอนจบของหนังจะเป็นแบบไหน
  17. War ภาพยนตร์เกี่ยวกับสงคราม ที่ส่วนใหญ่จะทำออกมาจากเรื่องจริง เน้นการถ่ายทำที่ค่อนข้างอลังการ ไม่ว่าจะเป็นสงครามยุคเก่าหรือยุคใหม่
  18. Western ภาพยนตร์เกี่ยวกับคาวบอยตะวันตก ซึ่งปัจจุบันหาได้น้อยมาก เพราะยากที่จะนำเสนอความแปลกใหม่
  19. Thai-film ภาพยนตร์ไทยหลากหลายแบบ อาจจะอยู่ในแนวใดก็ได้ ที่แบ่งออกมาแบบนี้เราอาศัยการแบ่งแบบฝรั่งนะครับ ถ้าเรานำหนังไทยมาแบ่งก็จะมีออกมาแบบเดียวกันนี้ทั้งหมดนั้นคือแนวของภาพยนตร์ในปัจจุบัน แต่ในปัจจุบันยังมีภาพยนตร์ทดลองออกมาอีกหลายแบบ ให้คนดูได้เลือกดูได้เปิดกว้างมากขึ้นในการเลือกชมภาพยนตร์

ประเภทของแนวภาพยนตร์

แนวภาพยนตร์มักถูกแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ ตามส่วนประกอบของภาพยนตร์หลักๆ สามอย่าง ได้แก่ ฉาก, อารมณ์, และรูปแบบ ฉากหมายถึงสถานที่และสิ่งแวดล้อมที่เรื่องราวในภาพยนตร์ดำเนินไป อารมณ์หมายถึงความรู้สึกที่ผู้ชมได้รับตลอดการชมภาพยนตร์ และรูปแบบหมายความกว้างๆ ถึงอุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายทำและวิธีการเล่าเรื่อง

 ฉาก

  • อาชญากรรม : ตัวละครมีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมหรือเป็นอาชญากรเสียเอง
  • ฟิล์ม นัวร์ : ตัวละครเอกไม่เชื่อในความดีงามและคุณค่าของมนุษย์
  • อิงประวัติศาสตร์ : เนื้อเรื่องดำเนินในอดีต โดยเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ที่ได้รับการบันทึกไว้ มากบ้าง น้อยบ้าง แต่จะไม่เกิดจากจินตนาการหรือความเพ้อฝันล้วนๆ
  • นิยายวิทยาศาสตร์ : เนื้อเรื่องดำเนินในความเป็นจริงอื่น ส่วนมากคืออนาคตหรืออวกาศ ตัวเนื้อเรื่องมักมีเทคโนโลยี(ที่เกิดจากวิทยาศาสตร์สมัยใหม่)เป็นองค์ประกอบ หรืออาจใช้ความรู้เชิงวิทยาศาสตร์เข้าช่วยในการอธิบายลักษณะตัวละคร ฉาก พฤติกรรมของตัวละคร หรือความเป็นไปของเนื้อเรื่อง (อาจเข้าข่ายลักษณะใดลักษณะหนึ่งหรือมากกว่า)
  • กีฬา : เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาหรือสถานที่ที่ใช้แข่งขันกีฬา
  • สงคราม : เนื้อเรื่องดำเนินในสนามรบหรือในช่วงเวลาที่มีสงคราม

อารมณ์

  • แอ็คชัน : สร้างความเร้าใจให้กับผู้ชมผ่านทางการใช้ความรุนแรง
  • ผจญภัย : สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมผ่านทางการเสี่ยงภัยของตัวละคร
  • ตลก : มุ่งสร้างความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ
  • ดราม่า : สร้างความตื่นตัวใจ ความเศร้าสลดใจ ผ่านทางการแสดงการเติบโตของตัวละคร
  • แฟนตาซี : สร้างความสนุกสนานและตระการตาตระการใจด้วยฉากและเนื้อเรื่องที่ไม่อยู่ในความเป็นจริง
  • สยองขวัญ : มุ่งสร้างความกลัว
  • ลึกลับ : มุ่งสร้างความฉงนงงงวยและความรู้สึกท้าทายในการแก้ไขปริศนา
  • รักโรแมนติก : มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักฉันชู้สาว
  • ระทึกขวัญ : มุ่งสร้างความตื่นเต้นและความตึงเครียด

รูปแบบ

  • แอนิเมชัน : สร้างภาพเคลื่อนไหวโดยฉายภาพนิ่งหลายๆ ภาพติดต่อกันด้วยความเร็วสูง
  • ชีวประวัติ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตของบุคคลจริง
  • สารคดี : นำเสนอข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
  • ทดลอง : สร้างขึ้นเพื่อทดสอบการตอบรับของผู้ชมต่อเทคนิคการสร้างภาพยนตร์หรือเนื้อเรื่องใหม่ๆ
  • ละครเพลง : แทรกเพลงที่ร้องโดยตัวละคร
  • บรรยาย : เนื้อเรื่องดำเนินไปตามการเล่าเรื่องของผู้บรรยาย
  • สั้น : มีความยาวน้อยกว่าภาพยนตร์ทั่วๆ ไป

ความรู้เกี่ยวกับหนังสั้น

ภาพยนตร์สั้น หรือ หนังสั้น (อังกฤษ : Short film, หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Short) เป็นประเภทของภาพยนตร์อย่างหนึ่งที่เหมือนกับภาพยนตร์ทั่วไป ที่เล่าเรื่องด้วยภาพและเสียงเฉกเช่นภาพยนตร์ความยาวปกติ เพียงแต่ว่าเป็นการเล่าเรื่องประเด็นสั้น ๆ หรือประเด็นเดียวให้ได้ใจความ มาตรฐานของภาพยนตร์สั้น คือ มีความยาวเต็มที่ไม่เกิน 40 นาที

สำหรับในประเทศไทย ภาพยนตร์สั้นเรื่องแรกเกิดขึ้นในสมัยของรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรป ความยาว 1 นาทีโดยช่างภาพของบริษัทลูมิแอร์ (Lumiere) ของฝรั่งเศส ผู้ผลิตและพัฒนากล้องถ่ายภาพยนตร์สำคัญรายหนึ่งของโลก

ปัจจุบัน ภาพยนตร์สั้นได้รับความสนใจและตื่นตัวอย่างมาก มีผู้สร้าง ผู้ผลิตหลายรายมากขึ้น และในการแจกรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 80 ในปี ค.ศ. 2012 ที่เป็นการแจกรางวัลให้แก่ภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 2011 ก็เป็นครั้งแรกด้วยที่มีการแจกรางวัลให้แก่ภาพยนตร์ประเภทนี้ด้วย โดยแบ่งออกเป็น 2 รางวัล คือ ภาพยนตร์สั้น (Live Action) และแอนิเมชั่นสั้น (Animated)

 

ที่มา

  1. http://auttakorn.blogspot.com/
  2. bncc.ac.th/new/files/120827077495236_12091621214117.pdf
  3. http://th.wikipedia.org/wiki/ภาพยนตร์
  1. ขอบคุณมากๆเลยค่ะะะะ

  1. Pingback: Top 16 ภาพ ย น - KTHN

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.