อินเทอร์เน็ต ม.5/3

images

ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามจากหัวข้อต่อไปนี้

  1. 1.นักเรียนคิดว่าโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์ใดทำลายและรบกวนเครื่องคอมพิวเตอร์มากที่สุด เพราะอะไร

    • นาย ทัชพงษ์ วงค์หล้า เลขที่ 11

      ไวรัส เพราะ ทำรายคอมพิวเตอร์ทำให้ช้าแล้วยังทำให้คอมพิวเตอร์รัว

    • นาย ธรรมโชติ ไชยมงคล ม.5/3 เลขที่ 39

      ไวรัส ( virus ) เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานและอาจร้ายแรงถึงขั้นทำลายระบบคอมพิวเตอร์ให้เสียหายทั้งระบบ โดยจะทำการแนบโปรแกรมแปลกปลอมเข้าไปกับโปรแกรมอื่น แล้วแพร่กระจายตัวเองจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ได้ โดยผ่านสื่อบันทึกข้อมูล เช่น แผ่นบันทึก แฟลชไดรฟ์ หรือผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์

    • น.ส สกุลรัตน์ ไทยใหม่

      ไวรัส เพราะ เป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานและอาจร้ายแรงถึงขั้นทำลายระบบคอมพิวเตอร์ให้เสียหายทั้งระบบได้

    • นาย อนุรักษ์ ปินตา เลขที่ 9

      สแปม ( spam ) เป็นการใช้ระบบส่งอีเมลในการส่งข้อความที่ไม่พึงประสงค์ ให้กับผู้ใช้เป็นจำนวนมาก สแปมที่พบบ่อย คือการส่งข้อความโฆษณาขายสินค้า บริการ ท่องเที่ยว ชักชวนประกอบอาชีพที่มีรายได้สูง ผ่านระบบอีเมลที่เรียกว่า เมลขยะ ( junk mail ) นอกจากนี้อาจมีการส่งผ่านสื่ออื่น เช่น การส่งสารทันที โทรศัพท์เคลื่อนที่

    • น.ส. สุภารัตน์ ศรีจันทร์ เลขที่31 ชั้น 5/3

      ดิฉันคิดว่าโปรแกรมไวรัสเป็นโปรแกรมที่ร้ายแรงที่สุด เพราะว่าโปรแกรมไวรัสร้ายแรงถึงขั้นทำลายระบบคอมพิวเตอร์ให้เสียหายทั้งระบบ และยังสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย

    • น.ส.ปพิชญา ป๋าเมืองมูล เลขที่ 15

      ไวรัส เพราะคิดว่าโปรแกรมไวรัสเป็นโปรแกรมที่สร้างความรำคาญและอาจจะทำลายระบบคอมพิวเตอร์ไม่มากก็น้อย ดิฉันจึงคิดว่าโปรแกรมไวรัสเป็นโปรแกรมที่รบกวนเคื่องคอมพิวเตอร์มากที่สุด

    • น.ส.สุลีรัตน์ จักร์คำ เลขที่ 33

      โปรแกรมไวรัส เพราะเป็นโปรแกรมที่ที่ร้ายแรงถึงขั้นทำลายคอมพิวเตอร์เสียหายทั้งระบบ และเกิดความรำคาญมากที่สุด

    • น.ส.อรทัย เขื่อนใจ เลขที่ 36

      ไวรัส (virus)
      เพราะไวรัสเป็นโปรแกรมที่สร้างความลำคาญเวลาเราทำงานเจ้าไวรัสก็จะรบกวนเราเเละทำให้เราหงุดหงิดและทำลายคอมพิวเตอร์ของเราเเละทำลายโปรแกรมต่างๆบนคอมพิวเตอร์ของเรามำให้โปรแกรมในเครื่องของเราเสียหายเเละข้อมุลที่เราเก็บไว้ในเครื่องกะจะหายไปตามๆกัน

    • น.ส.พรนิภา เสาร์เทพ

      ไวรัส เพราะโปรแกรมที่สามารถทำลายคอมพิวเตอร์ให้เสียหายได้ทั้งระบบและเป็นโปรแกรมที่แปลกปลอมที่มากับ สื่อการบันทึกต่างๆ

    • น.ส สินีนาฎ วังคะวิง เลขที่ 30 ชั้นม. 5/3

      ไวรัส เพราะ ไวรัสนอกจากจะรบกวนคอมพิวเตอร์เราแล้วนั้นยังสามารถทำลายคอมพิวเตอร์เราได้ด้วย เพราะสิ่งนี้จึงทำให้คิดว่าไวรัสเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดที่เคยเจอมาค่ะ

    • น.ส.ชรินทร์ทร ปงผาบ

      ไวรัสเพราะเป็นโปรแกรมที่สร้างความรำคาญให้แก่ผู้ใช้และทำให้คอมเราช้าขึ้นอีกด้วย

    • วลัยพร ยศข่าย

      ไวรัส เพราะทำให้คอมพิวเตอร์เสียหายทำให้ล้ล้าซ้า

    • น.ส. ปริศนา ทำอินแก้ว เลขที่ 16

      ดิฉันคิดว่าเป็น ไวรัส เพราะเป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานและอาจร้ายแรงถึงขั้นทำลายระบบคอมพิวเตอร์ให้เสียหายทั้งระบบ

    • น.ส.ชนากานต์ ศิลเทพาเวทย์

      ไวรัส เพราะว่าเป็นโปรแกรมที่ทำลายข้อมูลและทำลายระบบคอมพิวเตอร์

    • นาย นนทวัตร์ เชียงพันธ์ เลขที่ 1 ชั้น ม 5/3

      ไวรัส (virus)
      เพราะไวรัสเป็นโปรแกรมที่สร้างความลำคาญเวลาเราทำงานเจ้าไวรัสก็จะรบกวนเราเเละทำให้เราหงุดหงิดและทำลายคอมพิวเตอร์ของเราเเละทำลายโปรแกรมต่างๆบนคอมพิวเตอร์ของเรามำให้โปรแกรมในเครื่องของเราเสียหายเเละข้อมุลที่เราเก็บไว้ในเครื่องกะจะหายไปตามๆกัน

    • น.ส. ศิริพร บัวงง

      ม้าโทรจัน เพราะ เป็นโปรแกรมแปลกปลอกที่แอบแฝงกับโปรกรมอื่น และสามารถหลอกให้เราเข้าใจว่าเป็นโปรแกรมที่เราต้องการและดาวน์โปรแกรมนี้โดยเราไม่สามารถรู้ได้ว่าโปรแกรมนี้เป็นไวรัสซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับระบบคอมของเรา

    • นาย วัชรพงษ์ ศิริจรรยาพร เลขที่ 23

      ไวรัสเพราะ สามารถทำความรำคาญให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยจะผ่านทางสื่อบันทึกข้อมูล

    • น.ส สกุลรัตน์ ไทยใหม่ เลขที่ 26 ชั้น ม.5/3

      ม้าโทรจัน เป็นโปรแกรมที่แปลกปลอมที่เข้าสู่คอมพิวเตอร์ โดยมันจะแอบบแฝงมากับโปรแกรมอื่่น เช่น เวลาผมโหลดเกมส์ ก็มีแต่ไวรัส

    • น.ส.นลินนิภา ประราช เลขที่14

      ไวรัสเพราะไวรัสเป็นตัวที่สร้างความลำคาญอย่างมากในการใช้คอมและไวรัสถ้ามีมากในคอมพิวเตอร์อาจจะทำให้คอมของเราเสียก็ได้

    • น.ส.กมลวรรณ พะกะจาง

      ไวรัส เพราะว่าโปรแกรมนี้สร้างความรำคาญให้แก่ผู้ใช้งานและยังทำลายระบบคอมพิวเตอร์ด้วยและอาจทำให้ไฟล์เสียหายหรือข้อมูลต่างๆสูญหาย โปรแกรมไวรัสนี้มันยากที่จะป้องกันอีกด้วย และพบบ่อยที่สุดในเครื่องคอมพิวเตอร์

    • นาย ทวีศักดิ์ ศุกระรุจิ เลขที่ 10

      ไวรัส เพราะทำให้เครื่องช้าไม่ทันใจและยังทำให้ข้อมูลเสียหายและยังทำให้คอมพิวเตอร์พังเสียหาย

    • น.ส นฤมล เกล็ดเปรื่อง เลขที่ 13

      ไวรัส เพราะไวรัสเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานและอาจร้ายแรงถึงขั้นทำลายระบบคอมพิวเตอร์ให้เสียหายทั้งระบบได้

    • น.ส สโรชา ทิพย์กุลกานต์ ชั้น5/3 เลขที่ 42

      โปรแกรมสปายแวร์เพราะจะทำให้ข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์รั่วไหลไปยังอินเทอร์เน็ตอาจจะให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ๆได้

    • นาย พงศ์พิสุทธิ์ ปาเมืองมูล เลขที่ 18

      ม้าโทรจัน เป็นโปรแกรมที่แปลกปลอมที่เข้าสู่คอมพิวเตอร์ โดยมันจะแอบบแฝงมากับโปรแกรมอื่่น เช่น เวลาผมโหลดเกมส์ ก็มีแต่ไวรัส

    • น.ส. อรวรรณ ทำอินแก้ว เลขที่ 37

      ไวรัส เพราะ เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนขึ้นมาเพื่อสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานและอาจเกิดความร้ายแรงถึงขั้นทำลายคอมพิวเตอร์ให้เสียหายทั้งระบบ

    • น.ส จรรญาลักษณ์ สำเภาเงิน เลขที่ 4

      ไวรัส เพราะไวรัสเป็นโปรแกรมที่สร้างความรำคาญอย่างมากสำหรับคนทำงาน และยังทำให้ระบบคอมพิวเตอร์เสียหายเป็นอย่างมาก งานที่เราสร้างและบันทึกไว้ที่สำคัญก็ถูกลบหายหมด อาจก่อให้แก่เรา ไวรัสเป็นโปรแกรมหนึ่งที่หลายคนไม่ต้องการ

    • น.ส.อนุตรา ทิอ้าย

      ไวรัสและมัลแวร์ เพราะมันเป็นโปรแกรมที่ไม่พึ่งประสงค์จะทำลายและรบกวนเครื่องคอมพิวเตอร์และจะทำให้คอมพิวเตอร์ช้าหรืออาจเสียเลยก็ได้

    • น.ส.สุจินต์ แช่ใจ ม.5/3 เลขที่ 43

      โปรแกรมสปายแวร์เพราะคอยติดตามเราตลอดเวลาและยังทำให้เรารู้สึกไม่มีความปลอดภัยกับตัวเรายังนำไปสู่การเกิดอาชญากรรม

    • น.ส.วิภาดา มาตระออ เลขที่ 40

      ไวรัส คือ โปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการสำเนาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ได้ และถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเข้าไประบาดในระบบคอมพิวเตอร์อื่นๆ ซึ่งอาจเกิดจากการนำเอาดิสก์ที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้อีกเครื่องหนึ่ง หรืออาจผ่านระบบเครือข่ายหรือระบบสื่อสารข้อมูล ไวรัสก็อาจแพร่ระบาดได้เช่นกัน

    • นางสาว รัตน์ชนีพร ถาน้อย

      โปรแกรมไวรัส เพราะโปรแกรมนี้จะทำลายระบบคอมพิวเตอร์ของเราและรบกวนการทำงานของคอมพิวเตอร์ให้ช้าลงอีกและยังเป็นโปรแกรมที่แพร่กระจายได้หลายวิธี

    • นาย สุรชย ถาน้อย ม.5/3 เลขที่ 32

      ไวรัส เพราะ ทำให้คอมพิวเตอร์ช้า ทำให้ข้อมูลสูญหาย เเละสร้างความรำคาญกับผู้ใช้งาน
      เเละไวรัสนี้ยังสามารถเเพร่ไปยังอีกเครื่องได้โดยผ่านสื่อบันทึกข้อมูล เช่น เเฟลชไดรฟ์

    • น.ส.อรทัย จาไผ่ เลขที่ 35

      ไวรัสเพราะเป็นโปรแกรมที่สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งาน

    • ไวรัส เพราะ จะทำให้เครื่องเสียหาย และ ไวรัส อาจแพร่ไปยังเครืิ่องอื่นได้

    • นาย สมบัตร อุดก้อน

      ไวรัส เพราะจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์พังเสียหายได้และอาจจะทำให้ข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเสียหายไปด้วย

    • น.ส กมลวรรณ เพ็ชรด่านเหนือ เลขที่44

      สปายแวร์เพราะจะทำให้เสียความเป็นส่วนตัวในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และจะทำให้งานหรือความลับของเรารั่วไหลได้

    • นาย ทิวา ยะลือชา เลขที่ 12 ม.503

      แอดแวร์ เป็นโปรแกรมแอบแฝงที่เมื่อโปรแกรมได้รับการดาวน์โหลดหรือมีการติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว จะแสดงหน้าต่าง ป๊อปอัพ ( pop – up ) ที่มีการโฆษณาสินค้าออกมาเป็นระยะๆ โดยอัตโนมัติ

    • นางสาวจิรนันท์ แก้วใส เลขที่ 5

      ไวรัสค่ะ>> เพราะ อาจทำให้คอมพิวเตอร์ช้าได้และถ้ามีมากเกินไปอาจไปทำลายข้อมูลในคอมพิวเตอร์ทำให้งานหาย หรืออาจจะทำให้คอมพิวเตอร์เสียทั้งระบบ ไวรัสเป็นโปรแกรมที่แพร่กระจายได้ง่ายมาก เช่น ผ่านทางอินเทอร์เน็ต และสื่อบันทึกข้อมูล ฯลฯ เพราะฉะนั้นเราต้องมีโปรมแกรมเรียกว่าโปรแกรมสแกนไวรัส เพื่อทำลายไวรัสตัวนั้นและเราต้องอัพเดทโปรแกรมอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะทำลายไวรัสที่สร้างขึ้นใหม่ (:

    • น.ส สินีนาฎ ไชยวงค์

      ไวรัส เพราะมันจะทำลายคอมพิวเตอร์ของเรา ให้เสียหายแล้วโปรแกรมทุกอย่าก็จะเปิดไม่ออก

  2. 2.นักเรียนคิดว่าตัวเองติดการใช้งานอินเทอร์เน็ต (Facebook) หรือไม่ อย่างไร และนักเรียนมีการบริหารจัดการตัวเองอย่างไรให้เหมาะสม

    • นาย ทัชพงษ์ วงค์หล้า เลขที่ 11

      ไม่ติดเพราะเวลาว่างจริงๆถึงจะเล่นแล้วถ้าเล่นก็เล่นเป็นเวลา

    • น.ส สโรชา ทิพย์กุลกานต์ ชั้น5/3 เลขที่ 42

      ไม่ติดเพราะบางครั้งก็รู้สึกเบื่่อและแบ่งเวลาการเล่นได้เช่น วันละ30-60นาที หรือเวลาว่างจากการเรียนหรือการทำงานอื่นๆ

    • นาย ธรรมโชติ ไชยมงคล เลขที่ 39

      ไม่ติดแค่ใช้ให้เหมาะสมกับสถานที่และแบ่งเวลาว่างไปทำประโยชน์อย่างอืน

    • น.ส สินีนาฎ วังคะวิง เลขที่ 30

      ไม่ค่ะ เพราะจะเล่นเวลาต้องการสื่อสารกับเพื่อนเท่านั้นค่ะ การจัดการกับตัวเองก็คือ ต้องรู้จักเล่นให้เป็นเวลา ไม่เล่นจนลืมคนรอบข้างของตัวเราเองค่ะ

    • น.ส.ชนากานต์ ศิลเทพาเวทย์

      ไม่ติด เพราะว่าจะเล่นในเวลาว่างและจะเล่นเป็นเวลา

    • นาย อนุรักษ์ ปินตา เลขที่ 9

      ไม่ติดเพราะFacebookไม่จำเป็นต้องเล่นติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะจะเอาเวลานี้ไปทำประโยชน์อย่างอืน

    • น.ส. สุภารัตน์ ศรีจันทร์ เลขที่31 ชั้น 5/3

      ดิฉันเคยติดอินเทอร์เน็ตอยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งทำให้เสียการเรียนเป็นอย่างมาก ดิฉันเลยบริหารการเล่นใหม่โดยที่เล่นให้เป็นเวลา ในเวลาเรียนก็ไม่ควรเล่น ซึ่งข้อนี้ก็ทำได้ยากมากแต่ก็หัดจนเป็นนิสัยจนเราชิน ทำให้ช่วงนี้ดิฉันเลิกติดอินเทอร์เน็ตไปได้เยอะมากเลยคะ

    • นาย วัชรพงษ์ ศิริจรรยาพร เลขที่ 23

      ไม่ติด เพราะ เราแบ่งเวลาอย่างดี เวลาเล่นคือเล่น ทำงานคือทำงาน

    • ไม่คิดว่าติด เพราะบ้างครั้งการเล่น face ก็หน้าเบื่อเหมื่อนกัน คิดว่าถ้าไม่ได้เล่นเฟสก็ไม่เห็นเป็นไร แค่จะตกข่าวบ้างเล็กน้อย เล่นหลังจากที่ทำงาน ทำการบ้านและอ่านหนังสือเสร็จ

    • วลัยพร ยศข่าย

      ติดไม่ไม่ว่า แต่ที่การที่เราเล่นเฟสไหนเราไปทำงานที่จำเป็นก่อนเราก่อมาเล่นก็ได้เวลาเล่นก็ต้องเล่นรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร

    • นาย ทวีศักดิ์ ศุกระรุจิ เลขที่ 10

      ไม่เลยเพราะมันน่าเบื่อและถ้าเล่นก็เล่นให้เป็นเวลาหรือไม่ีเราเอาเวลาที่เล่นไปทำงานอย่างอื่นจะดีกว่า

    • น.ส.กมลวรรณ พะกะจาง

      ไม่ติด เพราะว่าในfacebook ไม่มีอะไรให้น่าสนใจสักเท่าไร ถ้าจะมีก็เป็นข้อมูลข่าวสารต่างๆที่น่าติดตาม การบริบริหารจัดการก็เปิดเข้าใช้งานบ้างบางเวลาและก็แบ่งเวลาให้ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าจะเล่นอยู่ตลอดเวลา

    • น.ส.อนุตรา ทิอ้าย

      ไม่ติดมากแต่ก็เล่นบ้างเพราะFacebookเป็นสิ่งที่เข้าเพื่อติดต่อสื่อสารและเข้าเพื่อประโยชน์ต่างๆๆที่ต้องการการบริหารจัดการกับตัวเองคือเข้าให้เป็นเวลาและไม่เล่นมากเกินจนเกินไปแบ่งเวลาให้ถูกค่ะ

    • น.ส สกุลรัตน์ ไทยใหม่ เลขที่ 26 ชั้น ม.5/3

      ไม่ เพราะบ้านไม่ติดเน็ต และไม่ได้เล่น Facebook เป็นชีวิตจิตใจ หากมีการเล่นก็ควรเล่นให้พอเหมาะ ไม่เล่นจนถึงขั้นติด ถ้าติดอาจมีผลกระทบต่อชีวิต เช่น ร่างกายไม่แข็งแรง เสียการเรียน พ่อแม่ดุด่าว่ากล่าว

    • น.ส.พรนิภา เสาร์เทพ เลขที่ 19

      ไม่ติดเพราะบางครั้งเล่นนานๆก็รู้สึกเบื่อ และจะบริหารเวลาโดยการเล่นคือการเล่น การเรียนคือการเรียนเราควรแบ่งเวลาให้ถูก

    • น.ส.ปพิชญา ป๋าเมืองมูล เลขที่ 15

      ไม่ เพราะจะเล่นเฉพาะตอนที่ว่างหรือตอนเบืื่อๆ ไม่มีรัยทำ และก่อนที่จะเล่นอินเทอร์เน็ตจะต้องทำงานให้เส็จก่อนถึงจะเล่น และไม่เล่นนานจนทำให้ปวดเมื่อยตามร่างกาย หรือปวดตา

    • นางสาว รัตน์ชนีพร ถาน้อย

      ไม่ติดเพราะมีการแบ่งเวลาเล่นมีเฟสบุ๊ก และแบ่งเวลาในการทำกิจกรรมอื่นๆอีกไม่ให้เป็นการติดเล่นเฟสตลอดเวลา

    • น.ส. ปริศนา ทำอินแก้ว เลขที่ 16

      ไม่ค่อยติดเท่าไหร่ เพราะในการเล่นเฟสบุ๊คควรแบ่งเป็นเวลาและให้ถูกวิธี

    • น.ส.สุลีรัตน์ จักร์คำ เลขที่ 33

      ติด ทำให้เสียการเรียน วิธีการบริหารจัดการแบ่งเวลาให้ถูก ไม่เล่นมากจนเกินไปเล่นพอสมควร

    • น.ส.นลินนิภา ประราช เลขที่14

      ไม่ติดเพราะถ้ามีเวลาว่างจริงๆจึงจะเข้าเล่นถ้าเล่นบ่อยๆอาจจะเบื่อได้

    • น.ส.สุจินต์ แช่ใจ ม.5/3 เลขที่ 43

      ติดบ้างบางครั้ง มีการบริหารจัดการตัวเองคือ แบ่งเวลาเล่น เวลาเรียน หลังจากเรียนเสร็จหรือทำการบ้านแล้วค่อยเล่น

    • น.ส. สินีนาฎ ไชยวงค์ เลขที่ 29

      ติดบ้าง แต่ต้องให้เล่นเป็นเวลาอย่าเล่นบ่อยเพราะอาจจะติด แต่ช่วงเวลาใกล้สอบจะต้องงดการใช้ Facebook แต่ถ้าตอนว่างๆก็เล่นบ้างเพื่ออัปเดทข่าวสาร แต่ต้องปฏิบัติตนเองให้เหมาะสมอย่าใช้การสื่อสารนี้ไปทำลายผู้อื่นให้เกิดความเสียหาย

    • ไม่ติด เพราะเล่นเป็นเวลา บางวันก็ไม่เล่น และพูดคุยกับเพื่อนบ้าง

    • น.ส. อรวรรณ ทำอินแก้ว เลขที่ 37

      ไม่ติดเพราะเข้าไปแล้วรู้สึกเบื่อหน่ายและช่วงนี้ต้องแบ่งเวลาเรียนด้วย

    • นาย พงศ์พิสุทธิ์ ปาเมืองมูล เลขที่ 18

      ไม่คับ ผมไม่ได้ติดจนงอมแงม เล่นเป็นบางครั้ง บางทีก็ไม่สนใจ คนเราควรไม่เล่นจนมากเกินไป จนเสียเงินเสียทอง ทั้งสุขภาพร่างกายก็เสียไปด้วย

    • น.ส.กมลวรรณ เพ็ชรด่านเหนือ เลขที่ 44

      ไม่ติด เพราะ ถ้าว่างหรือไม่มีไรทำก็จะเล่นแต่ส่วนมากก็ไม่ค่อยได้เล่นมากนัก

    • น.ส จรรญาลักษณ์ สำเภาเงิน เลขที่ 4

      ไม่ค่ะ่ เพราะการเล่น face book เล่นยามว่างหรือทำงานเสร็งแล้ว ถ้าทำงานไม่เสร็จก็ไม่ควรเล่น เพรำะจะทำให้งานล่าช้าลงและทำให้มีผลต่อการเรียน ทางที่ดีไม่ควรเล่นดีที่สุดหรือถ้าอยากเล่นก็เล่นวันละครึ่งชั่วโมง

    • นางสาว ศิริพร

      ไม่คิดว่าติด เพราะบ้างครั้งการเล่น face ก็หน้าเบื่อเหมื่อนกัน คิดว่าถ้าไม่ได้เล่นเฟสก็ไม่เห็นเป็นไร แค่จะตกข่าวบ้างเล็กน้อย เล่นหลังจากที่ทำงาน ทำการบ้านและอ่านหนังสือเสร็จ

    • นาย สมบัตร อุดก้อน

      ไม่ติดเพราะเราแบ่งเวลาเองได้เช่นวันละ10-30นาที เล่นบ่อยก็รู้สึกเบื่อ ถ้าจะเล่นก็หลังเลิกเรียนหรอในเวลาว่าง

    • นางสาว อรทัย จาไผ่ เลขที่35

      ไม่ติด เพราะจะเล่นเป็นบางครั้งเล่นในเฉพะเวลาว่าง

    • นาย ทิวา ยะลือชา เลขที่ 12 ม.503

      ก็ติด เหมือนกันน่ะคับ มันก็เลิกยากเหมือนกันน่ะ เพราะเล่นทุกวันคับ การบริหารเหลอคับ ก็ เล่นให้น้อยลง สนใจการเรียนมาก ขึ้นคับ เอาเวลา ที่เล่น เฟสไปอ่าน หนังสือคับ

    • นาย สุระชัย ถาน้อย เลขที่ 32ม.503

      ไม่ติดคับเพราะผมไม่ชอบเล่นเฟสคับผมมันไม่มีประโยดอ่ะคับ

    • นางสาวจิรนันท์ แก้วใส เลขที่ 5

      “ไม่ถึงกับติดนะคะ” เพราะว่าเลิกเรียนมาบางวันการบ้านก็เยอะ ไหนจะเรียนพิเศษอีก แต่ถ้าวันไหนว่างและรู้สึกว่าเล่นนานเกินไปก็จะคิดว่าเล่นแล้วได้อะไร เล่นแล้วจะเรียนเก่งหร๋อ? ก็ทำให้คิดและก็ปิดfacebook ส่วนการแบ่งเวลาก็อาจจะดูข่าวสารในfacebook อย่างเช่นว่า กลุ่มของโรงเรียนเสริมงามวิทยาคม จะมีข่าวประชาสัมพันธ์และกลุ่มภายในห้อง ถ้าใครรู้ว่าวันนี้มีการบ้านอะไร พรุ้งนี้จะใส่ชุดอะไร ก็จะโพสต์ บอกเผื่อว่าเพื่อนภายในห้อง ตัองทำธุระส่วนตัว อาทิ. อาบน้ำ ทำการบ้าน ทำความสะอาดภายในบ้าน กินข้าว ก่อนก็ค่อยเล่น

    • น.ส.ชรินทร์ทร ปงผาบ

      คิดว่าไม่ค่ะเพราะถ้าจะเล่นก็เล่นบางเวลา เล่นในช่วงไม่มีไรทำ

  3. 3.หากมีเพื่อนของนักเรียนมาปรึกษานักเรียนว่า “เขาได้คุยกับเพื่อนใน facebook แล้วรู้สึกดีมาก จนมีการนัดเจอกัน 2 ต่อ 2 จะทำอย่างไรดี”…. นักเรียนจะให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะกับเพื่อนนักเรียนอย่างไรจึงจะเหมาะสม

    • นาย ทัชพงษ์ วงค์หล้า เลขที่ 11

      ก็ถ้าคุยแล้วรุสึกดีก็คุยต่อไปแต่ถ้าจะเจอกันจริงๆก็บอกว่าขอเอาเพื่อนไปด้วยได้ป่าวเพื่อความสบายใจและถ้าจะเจอกันจริงๆก็ขอให้เจอกันที่สาธาารณะที่โจ่งแจ้งไม่ลับหูลับตา

    • น.ส สโรชา ทิพย์กุลกานต์ ชั้น5/3 เลขที่ 42

      บอกเพื่อนว่าให้พาคนอื่นไปด้วยหลายๆคนเช่นกลุ่มเพื่อนด้วยกันและไม่ควรอยู่ด้วยกัน2ต่อ2เพราะเราไม่เคยเจอกันมาก่อนไม่ควรที่จะไว้ใจเขาให้มากนัก

    • นาย ธรรมโชติ ไชยมงคล เลขที่ 39

      ไม่ควรไปเพราะเราไม่รู้จักเขาดีพอ (เขาอาจจะหลอกเราได้)

    • นาย อนุรักษ์ ปินตา เลขที่ 9

      ไม่ควรไปเพราะเราไม่รู้จักนิสัยและน่าตาที่เเท้จริง และควรเป็นห่วงคนที่อยู่ข้างหลังเรา(พ่อ แม่)

    • น.ส สินีนาฎ วังคะวิง เลขที่ 30

      จะให้คำแนะนำว่า เรายังไม่รู้จักเขาดี ก็ไม่ควรที่จะไปเจอหน้าเร็วเกินไป เพราะผู้ชายที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน อาจจะไว้ใจไม่ได้ก็ได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเราพึ่งรู้จักเขาก็ควรจะศึกษาคุยกันไปก่อนจนรู้นิสัยใจคอเขาดีแล้วค่อยนัดเจอกันทีหลัง

    • น.ส. สุภารัตน์ ศรีจันทร์ เลขที่31 ชั้น 5/3

      เราไม่ควรจะให้เพื่อนไปถ้าเพื่อนไม่รู้จักคนๆนั้นพอ เพราะอาจเป็นการล่อลวงที่เป็นปัญหาสังคมอยู่ตอนนี้ หรือถ้าเพื่อนต้องการที่จะไปจริงๆก็ควรบอกเพื่อนให้หาเพื่อนที่สามารถปกป้องเราได้ไปเป็นเพื่อน ไม่ควรที่จะไปคนเดียวตามลำพัง เพราะอาจเกิดอันตรายได้ทุกเมื่อ

    • น.ส.สุลีรัตน์ จักร์คำ เลขที่ 33

      ไม่ควรที่่จะไปคนเดียวเพราะเราไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไรมีนิสัยอย่างไร ถ้าเราไปเองอาจจะเกิดอัตรายกับเราได้ หรือไม่อย่างนั้นเราควรที่จะชวนเพื่อนไปด้วยหลายๆคน

    • นาย ทวีศักดิ์ ศุกระรุจิ เลขที่ 10

      บอกเพื่อนว่าจะแน่ใจได้ยังไงถ้าไปเจอกันแล้วเขาไม่เป็นอย่างที่เขาพูดหรืออย่างที่เราคิดไว้เราจะทำยังไงถ้าไปจริงๆก็เอาเพื่อนไปด้วย

    • นาย ปรีชา ยะวัน เลขที่17

      ไม่ติดเอาเวลสว่างไปใช้อย่างเวลาไม่มีสอบก้อเค้าไปเล่นกับเพื่อนบ้างเผื่อจะหายเหงา

    • นาย วัชรพงษ์ ศิริจรรยาพร เลขที่ 23

      ดูก่อนว่าเขาเป็นใครมาจากไหนเป็นลูกใครแต่ถ้าเป็นผู้หญิงก็ไม่ต้องคิดไปเลย

    • น.ส สกุลรัตน์ ไทยใหม่ เลขที่ 26 ชั้น ม.5/3

      ก็แนะนำเขาบอกว่าอย่าไว้ใจ เพราะว่าเราไม่รู้นิสัยใจคอ เขาอาจจะล่อลวงเราหรือคิดไม่ดีกับเรา ทางที่ดีอย่าบอกข้อมูลส่วนตัวกับเขา ไม่ควรรับข้อมูลที่เขาส่งมาให้ แค่นี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว

    • น.ส.ชนากานต์ ศิลเทพาเวทย์

      ไม่ควรไปเจอเพราะเราไม่เคยเห็นหน้า

    • น.ส. ปริศนา ทำอินแก้ว เลขที่ 16

      นี่เธออย่าเชื่อเขา มันอาจจะหลอกเราก็ได้การที่เราอยู่2 ต่อ2 อาจจะทำให้ผู้ชายเกิดอารมณ์ก็ได้นะเพื่อนคนนี้หวังดี

    • น.ส.ปพิชญา ป๋าเมืองมูล เลขที่ 15

      พูดออกไปตรงๆ ว่านัดเจอกันได้แต่ไม่ควรที่จะนัดเจอกันแค่ 2ต่อ2 ควรจะมีเพื่อนไปด้วยเยอะๆเพื่อความปลอดภัยและจะได้ไม่เขินอายกัน และไม่ควรที่จะไปมาหาสู่กันบ่อยจนเกินไปต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบหรือเพื่อนทราบ และควรศึกษากันให้นานๆ เพราะไม่ใช่แค่เราไม่ไว้ใจเขา เพราะเขาก็อาจไม่ไว้ใจเราด้วย

    • น.ส.นลินนิภา ประราช เลขที่14

      บอกเพื่อนว่าถ้าคุยกันในฐานะเพื่อนก็คุยได้ไม่เป็นไรแต่ถ้าจะนัดเจอกันมันไม่สมควรแต่ถ้านัดเจอกันแล้วเอาเพื่อนไปหลายคนเพื่อไม่ให้คนอื่นนิทราได้แต่เราก็ไม่ควรไปเชื่อเขา

    • น.ส.พรนิภา เสาร์เทพ เลขที่ 19

      ไม่ควรไปเจอเขาเป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้ และเพิ่งรู้จักกันไม่นานอย่าเพิ่งไปเจอเลยเพราะมันอันตรายโดยเฉพาะถ้าเป็นผู้หญิงยิ่งอันตรายมาก

    • น.ส.อนุตรา ทิอ้าย

      ไม่ควรนัดเจอกันเพราะเพื่อนในfacebookเราไม่เคยรู้จักมาก่อนถ้าไปเจอกัน2ต่อ2 อาจเกิดอันตรายกับตัวเองควรคิดให้ดีหรือถ้าอยากเจอจริงๆๆให้ช่วนเพื่อนไปด้วยไม่ควรไปคนเดียว

    • นางสาว รัตน์ชนีพร ถาน้อย

      ให้คำแนะนำว่าเรารู้จักเขามานานแค่ไหนเขาไว้ใจได้หรอไม่ใช่ว่าพูดดีแล้วจะไว้ใจได้และอาจมาหลอกลวงเราและไปพบแล้วไม่ใช่ว่าไม่ใช่คนอย่างที่เรานึกเอาไว้ก็ได้

    • น.ส.สุจินต์ แช่ใจ ม.5/3 เลขที่ 43

      ให้คำแนะนำว่าอย่าไปเจอเลยเพราะเราไม่รูัจักเขาอย่างจริงจัง นิสัยเขาเป็นอย่างก็ไม่รู้ หรือถ้าหากจะไปจริงๆควรไปกับเพื่อน

    • วลัยพร ยศข่าย

      เวลาเราเล่นกับแล้วเราควรมีสติในการเล่นเวลาการที่เราจะนัดกันไปไหนเราควรจะรู้จักเข้าหั้ยมากดีก่อนถึงจะเป็นคนที่เราไว้ใจก็ตามบ้างครั้งคนที่เราไว้ใจไหนอาจทำหั้ยเราหลงผิดเวลาเราผิดผาดแล้วเราก็ต้องมานั้งเสียใจแต่ว่าตัวเราไม่เสียใจคนเดียวพ่อกับแม่เราเสียใจมากกว่าอีก

    • น.ส. อรวรรณ ทำอินแก้ว เลขที่ 37

      ไม่ต้องไปดีกว่าเพราะเรายังไม่ค่อยได้รู้จักกันดีพอ และนิสัยของเขานั่นอาจจะไม่ดีก็ได้

    • น.ส.กมลวรรณ เพ็ชรด่านเหนือ เลขที่ 44

      ไม่สมควรไปเพราะอาจโดนหลอกไปทำอย่างอื่นได้

    • นาย สมบัตร อุดก้อน

      จะไม่ปล่อยให้เพื่อนไปคนเดียวเราจะต้องไปเป็นเพื่อนเพราะมันอันตรายเกินไปถ้าจะปล่อยเขาไปกับคนแปลกหน้า2ต่ิอ2

    • ให้คำแนะนำว่า แน่ใจหรอว่าเขาไว้ใจได้แค่ไหน แล้วถ้าเราไปพบกับเขาแล้วอาจไม่เป็นอย่างที่เราคิด แล้วอาจเกิดอันตรายได้

    • นางสาว อรทัย จาไผ่

      ไม่ควรไปเจอหรือถ้าจะไปเจอก็ควรจะไปกันหลายๆๆคนไม่ควรไปคนเดียว

    • น. ส จรรญาลักษณ์ สำเภาเงิน เลขที่ 4

      1. ไม่ควรไปเพรำะเราไม่รู้จักเขาอย่างแท้จริง ว่าเขาเป็นใครมาจากใหนเขาอาจจะหลอกลวงเราก็ได้2. ม่ควรไปติดต่อกับคนที่ไม่รู้จักและไม่ควรไปพบเจอกัน
      3.ถ้าจำเป็นต้องไปจริงๆควรชวนเพื่อนๆไปด้วย

    • นาย ทิวา ยะลือชา เลขที่ 12 ม.503

      บอกเพือนว่าถ้าคุยในเฟสก็คุยได้ น๊ะเเต่ว่าถ้าเจอกันก็ระวังไว้บ้างควรจะพาเพื่อนคนรู้ใจไปด้วยน่ะ

    • นางสาวจิรนันท์ แก้วใส เลขที่ 5

      กรณีที่ 1 ถ้านัดเจอกันแล้ว
      -ควรบอกให้ผู้ปกครองทราบว่าจะไปที่ไหกับใคร
      -แต่งตัวให้มิดชิด
      -อย่าไปในสถานที่ที่เปลี่ยว ควรเลือกไปสถานที่ที่คนเยอะๆ

      กรณี 2. บอกเพื่อนเราว่าอย่าไปเลยดีกว่าเพราะว่า เราไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรเพื่อนเราหรือเปล่า ประวัติเขาเป็นใครเราก็
      ไม่รู้้ ต้องระวึงตัวไว้ก่อนก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

    • น.ส สินีนาฎ ไชยวงค์

      ไม่ให้ไป เพราะเขาอาจจะเป็นคนที่ไม่ดีอาจจะคิดมิดีมิร้ายต่อนเพื่อนเรา แล้วถ้าเพื่อนเราอย่ากไปจริงๆ ให้ชวนเพื่อนๆไปด้วยเพื่อความปลอดภัยของเพื่อนเรา

    • น.ส.ชรินทร์ทร ปงผาบ

      ถ้าเพื่อนจะไปก็จะบอกให้เพื่อนว่าระวังตัวเองด้วยและจะให้ดีต้องมีเพื่อนไปด้วย

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.