อินเทอร์เน็ต ม.5/3
ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามจากหัวข้อต่อไปนี้
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
จ. | อ. | พ. | พฤ. | ศ. | ส. | อา. |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
1.นักเรียนคิดว่าโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์ใดทำลายและรบกวนเครื่องคอมพิวเตอร์มากที่สุด เพราะอะไร
ไวรัส เพราะ ทำรายคอมพิวเตอร์ทำให้ช้าแล้วยังทำให้คอมพิวเตอร์รัว
ไวรัส ( virus ) เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานและอาจร้ายแรงถึงขั้นทำลายระบบคอมพิวเตอร์ให้เสียหายทั้งระบบ โดยจะทำการแนบโปรแกรมแปลกปลอมเข้าไปกับโปรแกรมอื่น แล้วแพร่กระจายตัวเองจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ได้ โดยผ่านสื่อบันทึกข้อมูล เช่น แผ่นบันทึก แฟลชไดรฟ์ หรือผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ไวรัส เพราะ เป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานและอาจร้ายแรงถึงขั้นทำลายระบบคอมพิวเตอร์ให้เสียหายทั้งระบบได้
สแปม ( spam ) เป็นการใช้ระบบส่งอีเมลในการส่งข้อความที่ไม่พึงประสงค์ ให้กับผู้ใช้เป็นจำนวนมาก สแปมที่พบบ่อย คือการส่งข้อความโฆษณาขายสินค้า บริการ ท่องเที่ยว ชักชวนประกอบอาชีพที่มีรายได้สูง ผ่านระบบอีเมลที่เรียกว่า เมลขยะ ( junk mail ) นอกจากนี้อาจมีการส่งผ่านสื่ออื่น เช่น การส่งสารทันที โทรศัพท์เคลื่อนที่
ดิฉันคิดว่าโปรแกรมไวรัสเป็นโปรแกรมที่ร้ายแรงที่สุด เพราะว่าโปรแกรมไวรัสร้ายแรงถึงขั้นทำลายระบบคอมพิวเตอร์ให้เสียหายทั้งระบบ และยังสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย
ไวรัส เพราะคิดว่าโปรแกรมไวรัสเป็นโปรแกรมที่สร้างความรำคาญและอาจจะทำลายระบบคอมพิวเตอร์ไม่มากก็น้อย ดิฉันจึงคิดว่าโปรแกรมไวรัสเป็นโปรแกรมที่รบกวนเคื่องคอมพิวเตอร์มากที่สุด
โปรแกรมไวรัส เพราะเป็นโปรแกรมที่ที่ร้ายแรงถึงขั้นทำลายคอมพิวเตอร์เสียหายทั้งระบบ และเกิดความรำคาญมากที่สุด
ไวรัส (virus)
เพราะไวรัสเป็นโปรแกรมที่สร้างความลำคาญเวลาเราทำงานเจ้าไวรัสก็จะรบกวนเราเเละทำให้เราหงุดหงิดและทำลายคอมพิวเตอร์ของเราเเละทำลายโปรแกรมต่างๆบนคอมพิวเตอร์ของเรามำให้โปรแกรมในเครื่องของเราเสียหายเเละข้อมุลที่เราเก็บไว้ในเครื่องกะจะหายไปตามๆกัน
ไวรัส เพราะโปรแกรมที่สามารถทำลายคอมพิวเตอร์ให้เสียหายได้ทั้งระบบและเป็นโปรแกรมที่แปลกปลอมที่มากับ สื่อการบันทึกต่างๆ
ไวรัส เพราะ ไวรัสนอกจากจะรบกวนคอมพิวเตอร์เราแล้วนั้นยังสามารถทำลายคอมพิวเตอร์เราได้ด้วย เพราะสิ่งนี้จึงทำให้คิดว่าไวรัสเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดที่เคยเจอมาค่ะ
ไวรัสเพราะเป็นโปรแกรมที่สร้างความรำคาญให้แก่ผู้ใช้และทำให้คอมเราช้าขึ้นอีกด้วย
ไวรัส เพราะทำให้คอมพิวเตอร์เสียหายทำให้ล้ล้าซ้า
ดิฉันคิดว่าเป็น ไวรัส เพราะเป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานและอาจร้ายแรงถึงขั้นทำลายระบบคอมพิวเตอร์ให้เสียหายทั้งระบบ
ไวรัส เพราะว่าเป็นโปรแกรมที่ทำลายข้อมูลและทำลายระบบคอมพิวเตอร์
ไวรัส (virus)
เพราะไวรัสเป็นโปรแกรมที่สร้างความลำคาญเวลาเราทำงานเจ้าไวรัสก็จะรบกวนเราเเละทำให้เราหงุดหงิดและทำลายคอมพิวเตอร์ของเราเเละทำลายโปรแกรมต่างๆบนคอมพิวเตอร์ของเรามำให้โปรแกรมในเครื่องของเราเสียหายเเละข้อมุลที่เราเก็บไว้ในเครื่องกะจะหายไปตามๆกัน
ม้าโทรจัน เพราะ เป็นโปรแกรมแปลกปลอกที่แอบแฝงกับโปรกรมอื่น และสามารถหลอกให้เราเข้าใจว่าเป็นโปรแกรมที่เราต้องการและดาวน์โปรแกรมนี้โดยเราไม่สามารถรู้ได้ว่าโปรแกรมนี้เป็นไวรัสซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับระบบคอมของเรา
ไวรัสเพราะ สามารถทำความรำคาญให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยจะผ่านทางสื่อบันทึกข้อมูล
ม้าโทรจัน เป็นโปรแกรมที่แปลกปลอมที่เข้าสู่คอมพิวเตอร์ โดยมันจะแอบบแฝงมากับโปรแกรมอื่่น เช่น เวลาผมโหลดเกมส์ ก็มีแต่ไวรัส
ไวรัสเพราะไวรัสเป็นตัวที่สร้างความลำคาญอย่างมากในการใช้คอมและไวรัสถ้ามีมากในคอมพิวเตอร์อาจจะทำให้คอมของเราเสียก็ได้
ไวรัส เพราะว่าโปรแกรมนี้สร้างความรำคาญให้แก่ผู้ใช้งานและยังทำลายระบบคอมพิวเตอร์ด้วยและอาจทำให้ไฟล์เสียหายหรือข้อมูลต่างๆสูญหาย โปรแกรมไวรัสนี้มันยากที่จะป้องกันอีกด้วย และพบบ่อยที่สุดในเครื่องคอมพิวเตอร์
ไวรัส เพราะทำให้เครื่องช้าไม่ทันใจและยังทำให้ข้อมูลเสียหายและยังทำให้คอมพิวเตอร์พังเสียหาย
ไวรัส เพราะไวรัสเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานและอาจร้ายแรงถึงขั้นทำลายระบบคอมพิวเตอร์ให้เสียหายทั้งระบบได้
โปรแกรมสปายแวร์เพราะจะทำให้ข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์รั่วไหลไปยังอินเทอร์เน็ตอาจจะให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ๆได้
ม้าโทรจัน เป็นโปรแกรมที่แปลกปลอมที่เข้าสู่คอมพิวเตอร์ โดยมันจะแอบบแฝงมากับโปรแกรมอื่่น เช่น เวลาผมโหลดเกมส์ ก็มีแต่ไวรัส
ไวรัส เพราะ เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนขึ้นมาเพื่อสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานและอาจเกิดความร้ายแรงถึงขั้นทำลายคอมพิวเตอร์ให้เสียหายทั้งระบบ
ไวรัส เพราะไวรัสเป็นโปรแกรมที่สร้างความรำคาญอย่างมากสำหรับคนทำงาน และยังทำให้ระบบคอมพิวเตอร์เสียหายเป็นอย่างมาก งานที่เราสร้างและบันทึกไว้ที่สำคัญก็ถูกลบหายหมด อาจก่อให้แก่เรา ไวรัสเป็นโปรแกรมหนึ่งที่หลายคนไม่ต้องการ
ไวรัสและมัลแวร์ เพราะมันเป็นโปรแกรมที่ไม่พึ่งประสงค์จะทำลายและรบกวนเครื่องคอมพิวเตอร์และจะทำให้คอมพิวเตอร์ช้าหรืออาจเสียเลยก็ได้
โปรแกรมสปายแวร์เพราะคอยติดตามเราตลอดเวลาและยังทำให้เรารู้สึกไม่มีความปลอดภัยกับตัวเรายังนำไปสู่การเกิดอาชญากรรม
ไวรัส คือ โปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการสำเนาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ได้ และถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเข้าไประบาดในระบบคอมพิวเตอร์อื่นๆ ซึ่งอาจเกิดจากการนำเอาดิสก์ที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้อีกเครื่องหนึ่ง หรืออาจผ่านระบบเครือข่ายหรือระบบสื่อสารข้อมูล ไวรัสก็อาจแพร่ระบาดได้เช่นกัน
โปรแกรมไวรัส เพราะโปรแกรมนี้จะทำลายระบบคอมพิวเตอร์ของเราและรบกวนการทำงานของคอมพิวเตอร์ให้ช้าลงอีกและยังเป็นโปรแกรมที่แพร่กระจายได้หลายวิธี
ไวรัส เพราะ ทำให้คอมพิวเตอร์ช้า ทำให้ข้อมูลสูญหาย เเละสร้างความรำคาญกับผู้ใช้งาน
เเละไวรัสนี้ยังสามารถเเพร่ไปยังอีกเครื่องได้โดยผ่านสื่อบันทึกข้อมูล เช่น เเฟลชไดรฟ์
ไวรัสเพราะเป็นโปรแกรมที่สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งาน
ไวรัส เพราะ จะทำให้เครื่องเสียหาย และ ไวรัส อาจแพร่ไปยังเครืิ่องอื่นได้
ไวรัส เพราะจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์พังเสียหายได้และอาจจะทำให้ข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเสียหายไปด้วย
สปายแวร์เพราะจะทำให้เสียความเป็นส่วนตัวในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และจะทำให้งานหรือความลับของเรารั่วไหลได้
แอดแวร์ เป็นโปรแกรมแอบแฝงที่เมื่อโปรแกรมได้รับการดาวน์โหลดหรือมีการติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว จะแสดงหน้าต่าง ป๊อปอัพ ( pop – up ) ที่มีการโฆษณาสินค้าออกมาเป็นระยะๆ โดยอัตโนมัติ
ไวรัสค่ะ>> เพราะ อาจทำให้คอมพิวเตอร์ช้าได้และถ้ามีมากเกินไปอาจไปทำลายข้อมูลในคอมพิวเตอร์ทำให้งานหาย หรืออาจจะทำให้คอมพิวเตอร์เสียทั้งระบบ ไวรัสเป็นโปรแกรมที่แพร่กระจายได้ง่ายมาก เช่น ผ่านทางอินเทอร์เน็ต และสื่อบันทึกข้อมูล ฯลฯ เพราะฉะนั้นเราต้องมีโปรมแกรมเรียกว่าโปรแกรมสแกนไวรัส เพื่อทำลายไวรัสตัวนั้นและเราต้องอัพเดทโปรแกรมอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะทำลายไวรัสที่สร้างขึ้นใหม่ (:
ไวรัส เพราะมันจะทำลายคอมพิวเตอร์ของเรา ให้เสียหายแล้วโปรแกรมทุกอย่าก็จะเปิดไม่ออก
2.นักเรียนคิดว่าตัวเองติดการใช้งานอินเทอร์เน็ต (Facebook) หรือไม่ อย่างไร และนักเรียนมีการบริหารจัดการตัวเองอย่างไรให้เหมาะสม
ไม่ติดเพราะเวลาว่างจริงๆถึงจะเล่นแล้วถ้าเล่นก็เล่นเป็นเวลา
ไม่ติดเพราะบางครั้งก็รู้สึกเบื่่อและแบ่งเวลาการเล่นได้เช่น วันละ30-60นาที หรือเวลาว่างจากการเรียนหรือการทำงานอื่นๆ
ไม่ติดแค่ใช้ให้เหมาะสมกับสถานที่และแบ่งเวลาว่างไปทำประโยชน์อย่างอืน
ไม่ค่ะ เพราะจะเล่นเวลาต้องการสื่อสารกับเพื่อนเท่านั้นค่ะ การจัดการกับตัวเองก็คือ ต้องรู้จักเล่นให้เป็นเวลา ไม่เล่นจนลืมคนรอบข้างของตัวเราเองค่ะ
ไม่ติด เพราะว่าจะเล่นในเวลาว่างและจะเล่นเป็นเวลา
ไม่ติดเพราะFacebookไม่จำเป็นต้องเล่นติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะจะเอาเวลานี้ไปทำประโยชน์อย่างอืน
ดิฉันเคยติดอินเทอร์เน็ตอยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งทำให้เสียการเรียนเป็นอย่างมาก ดิฉันเลยบริหารการเล่นใหม่โดยที่เล่นให้เป็นเวลา ในเวลาเรียนก็ไม่ควรเล่น ซึ่งข้อนี้ก็ทำได้ยากมากแต่ก็หัดจนเป็นนิสัยจนเราชิน ทำให้ช่วงนี้ดิฉันเลิกติดอินเทอร์เน็ตไปได้เยอะมากเลยคะ
ไม่ติด เพราะ เราแบ่งเวลาอย่างดี เวลาเล่นคือเล่น ทำงานคือทำงาน
ไม่คิดว่าติด เพราะบ้างครั้งการเล่น face ก็หน้าเบื่อเหมื่อนกัน คิดว่าถ้าไม่ได้เล่นเฟสก็ไม่เห็นเป็นไร แค่จะตกข่าวบ้างเล็กน้อย เล่นหลังจากที่ทำงาน ทำการบ้านและอ่านหนังสือเสร็จ
ติดไม่ไม่ว่า แต่ที่การที่เราเล่นเฟสไหนเราไปทำงานที่จำเป็นก่อนเราก่อมาเล่นก็ได้เวลาเล่นก็ต้องเล่นรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร
ไม่เลยเพราะมันน่าเบื่อและถ้าเล่นก็เล่นให้เป็นเวลาหรือไม่ีเราเอาเวลาที่เล่นไปทำงานอย่างอื่นจะดีกว่า
ไม่ติด เพราะว่าในfacebook ไม่มีอะไรให้น่าสนใจสักเท่าไร ถ้าจะมีก็เป็นข้อมูลข่าวสารต่างๆที่น่าติดตาม การบริบริหารจัดการก็เปิดเข้าใช้งานบ้างบางเวลาและก็แบ่งเวลาให้ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าจะเล่นอยู่ตลอดเวลา
ไม่ติดมากแต่ก็เล่นบ้างเพราะFacebookเป็นสิ่งที่เข้าเพื่อติดต่อสื่อสารและเข้าเพื่อประโยชน์ต่างๆๆที่ต้องการการบริหารจัดการกับตัวเองคือเข้าให้เป็นเวลาและไม่เล่นมากเกินจนเกินไปแบ่งเวลาให้ถูกค่ะ
ไม่ เพราะบ้านไม่ติดเน็ต และไม่ได้เล่น Facebook เป็นชีวิตจิตใจ หากมีการเล่นก็ควรเล่นให้พอเหมาะ ไม่เล่นจนถึงขั้นติด ถ้าติดอาจมีผลกระทบต่อชีวิต เช่น ร่างกายไม่แข็งแรง เสียการเรียน พ่อแม่ดุด่าว่ากล่าว
ไม่ติดเพราะบางครั้งเล่นนานๆก็รู้สึกเบื่อ และจะบริหารเวลาโดยการเล่นคือการเล่น การเรียนคือการเรียนเราควรแบ่งเวลาให้ถูก
ไม่ เพราะจะเล่นเฉพาะตอนที่ว่างหรือตอนเบืื่อๆ ไม่มีรัยทำ และก่อนที่จะเล่นอินเทอร์เน็ตจะต้องทำงานให้เส็จก่อนถึงจะเล่น และไม่เล่นนานจนทำให้ปวดเมื่อยตามร่างกาย หรือปวดตา
ไม่ติดเพราะมีการแบ่งเวลาเล่นมีเฟสบุ๊ก และแบ่งเวลาในการทำกิจกรรมอื่นๆอีกไม่ให้เป็นการติดเล่นเฟสตลอดเวลา
ไม่ค่อยติดเท่าไหร่ เพราะในการเล่นเฟสบุ๊คควรแบ่งเป็นเวลาและให้ถูกวิธี
ติด ทำให้เสียการเรียน วิธีการบริหารจัดการแบ่งเวลาให้ถูก ไม่เล่นมากจนเกินไปเล่นพอสมควร
ไม่ติดเพราะถ้ามีเวลาว่างจริงๆจึงจะเข้าเล่นถ้าเล่นบ่อยๆอาจจะเบื่อได้
ติดบ้างบางครั้ง มีการบริหารจัดการตัวเองคือ แบ่งเวลาเล่น เวลาเรียน หลังจากเรียนเสร็จหรือทำการบ้านแล้วค่อยเล่น
ติดบ้าง แต่ต้องให้เล่นเป็นเวลาอย่าเล่นบ่อยเพราะอาจจะติด แต่ช่วงเวลาใกล้สอบจะต้องงดการใช้ Facebook แต่ถ้าตอนว่างๆก็เล่นบ้างเพื่ออัปเดทข่าวสาร แต่ต้องปฏิบัติตนเองให้เหมาะสมอย่าใช้การสื่อสารนี้ไปทำลายผู้อื่นให้เกิดความเสียหาย
ไม่ติด เพราะเล่นเป็นเวลา บางวันก็ไม่เล่น และพูดคุยกับเพื่อนบ้าง
ไม่ติดเพราะเข้าไปแล้วรู้สึกเบื่อหน่ายและช่วงนี้ต้องแบ่งเวลาเรียนด้วย
ไม่คับ ผมไม่ได้ติดจนงอมแงม เล่นเป็นบางครั้ง บางทีก็ไม่สนใจ คนเราควรไม่เล่นจนมากเกินไป จนเสียเงินเสียทอง ทั้งสุขภาพร่างกายก็เสียไปด้วย
ไม่ติด เพราะ ถ้าว่างหรือไม่มีไรทำก็จะเล่นแต่ส่วนมากก็ไม่ค่อยได้เล่นมากนัก
ไม่ค่ะ่ เพราะการเล่น face book เล่นยามว่างหรือทำงานเสร็งแล้ว ถ้าทำงานไม่เสร็จก็ไม่ควรเล่น เพรำะจะทำให้งานล่าช้าลงและทำให้มีผลต่อการเรียน ทางที่ดีไม่ควรเล่นดีที่สุดหรือถ้าอยากเล่นก็เล่นวันละครึ่งชั่วโมง
ไม่คิดว่าติด เพราะบ้างครั้งการเล่น face ก็หน้าเบื่อเหมื่อนกัน คิดว่าถ้าไม่ได้เล่นเฟสก็ไม่เห็นเป็นไร แค่จะตกข่าวบ้างเล็กน้อย เล่นหลังจากที่ทำงาน ทำการบ้านและอ่านหนังสือเสร็จ
ไม่ติดเพราะเราแบ่งเวลาเองได้เช่นวันละ10-30นาที เล่นบ่อยก็รู้สึกเบื่อ ถ้าจะเล่นก็หลังเลิกเรียนหรอในเวลาว่าง
ไม่ติด เพราะจะเล่นเป็นบางครั้งเล่นในเฉพะเวลาว่าง
ก็ติด เหมือนกันน่ะคับ มันก็เลิกยากเหมือนกันน่ะ เพราะเล่นทุกวันคับ การบริหารเหลอคับ ก็ เล่นให้น้อยลง สนใจการเรียนมาก ขึ้นคับ เอาเวลา ที่เล่น เฟสไปอ่าน หนังสือคับ
ไม่ติดคับเพราะผมไม่ชอบเล่นเฟสคับผมมันไม่มีประโยดอ่ะคับ
“ไม่ถึงกับติดนะคะ” เพราะว่าเลิกเรียนมาบางวันการบ้านก็เยอะ ไหนจะเรียนพิเศษอีก แต่ถ้าวันไหนว่างและรู้สึกว่าเล่นนานเกินไปก็จะคิดว่าเล่นแล้วได้อะไร เล่นแล้วจะเรียนเก่งหร๋อ? ก็ทำให้คิดและก็ปิดfacebook ส่วนการแบ่งเวลาก็อาจจะดูข่าวสารในfacebook อย่างเช่นว่า กลุ่มของโรงเรียนเสริมงามวิทยาคม จะมีข่าวประชาสัมพันธ์และกลุ่มภายในห้อง ถ้าใครรู้ว่าวันนี้มีการบ้านอะไร พรุ้งนี้จะใส่ชุดอะไร ก็จะโพสต์ บอกเผื่อว่าเพื่อนภายในห้อง ตัองทำธุระส่วนตัว อาทิ. อาบน้ำ ทำการบ้าน ทำความสะอาดภายในบ้าน กินข้าว ก่อนก็ค่อยเล่น
คิดว่าไม่ค่ะเพราะถ้าจะเล่นก็เล่นบางเวลา เล่นในช่วงไม่มีไรทำ
3.หากมีเพื่อนของนักเรียนมาปรึกษานักเรียนว่า “เขาได้คุยกับเพื่อนใน facebook แล้วรู้สึกดีมาก จนมีการนัดเจอกัน 2 ต่อ 2 จะทำอย่างไรดี”…. นักเรียนจะให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะกับเพื่อนนักเรียนอย่างไรจึงจะเหมาะสม
ก็ถ้าคุยแล้วรุสึกดีก็คุยต่อไปแต่ถ้าจะเจอกันจริงๆก็บอกว่าขอเอาเพื่อนไปด้วยได้ป่าวเพื่อความสบายใจและถ้าจะเจอกันจริงๆก็ขอให้เจอกันที่สาธาารณะที่โจ่งแจ้งไม่ลับหูลับตา
บอกเพื่อนว่าให้พาคนอื่นไปด้วยหลายๆคนเช่นกลุ่มเพื่อนด้วยกันและไม่ควรอยู่ด้วยกัน2ต่อ2เพราะเราไม่เคยเจอกันมาก่อนไม่ควรที่จะไว้ใจเขาให้มากนัก
ไม่ควรไปเพราะเราไม่รู้จักเขาดีพอ (เขาอาจจะหลอกเราได้)
ไม่ควรไปเพราะเราไม่รู้จักนิสัยและน่าตาที่เเท้จริง และควรเป็นห่วงคนที่อยู่ข้างหลังเรา(พ่อ แม่)
จะให้คำแนะนำว่า เรายังไม่รู้จักเขาดี ก็ไม่ควรที่จะไปเจอหน้าเร็วเกินไป เพราะผู้ชายที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน อาจจะไว้ใจไม่ได้ก็ได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเราพึ่งรู้จักเขาก็ควรจะศึกษาคุยกันไปก่อนจนรู้นิสัยใจคอเขาดีแล้วค่อยนัดเจอกันทีหลัง
เราไม่ควรจะให้เพื่อนไปถ้าเพื่อนไม่รู้จักคนๆนั้นพอ เพราะอาจเป็นการล่อลวงที่เป็นปัญหาสังคมอยู่ตอนนี้ หรือถ้าเพื่อนต้องการที่จะไปจริงๆก็ควรบอกเพื่อนให้หาเพื่อนที่สามารถปกป้องเราได้ไปเป็นเพื่อน ไม่ควรที่จะไปคนเดียวตามลำพัง เพราะอาจเกิดอันตรายได้ทุกเมื่อ
ไม่ควรที่่จะไปคนเดียวเพราะเราไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไรมีนิสัยอย่างไร ถ้าเราไปเองอาจจะเกิดอัตรายกับเราได้ หรือไม่อย่างนั้นเราควรที่จะชวนเพื่อนไปด้วยหลายๆคน
บอกเพื่อนว่าจะแน่ใจได้ยังไงถ้าไปเจอกันแล้วเขาไม่เป็นอย่างที่เขาพูดหรืออย่างที่เราคิดไว้เราจะทำยังไงถ้าไปจริงๆก็เอาเพื่อนไปด้วย
ไม่ติดเอาเวลสว่างไปใช้อย่างเวลาไม่มีสอบก้อเค้าไปเล่นกับเพื่อนบ้างเผื่อจะหายเหงา
ดูก่อนว่าเขาเป็นใครมาจากไหนเป็นลูกใครแต่ถ้าเป็นผู้หญิงก็ไม่ต้องคิดไปเลย
ก็แนะนำเขาบอกว่าอย่าไว้ใจ เพราะว่าเราไม่รู้นิสัยใจคอ เขาอาจจะล่อลวงเราหรือคิดไม่ดีกับเรา ทางที่ดีอย่าบอกข้อมูลส่วนตัวกับเขา ไม่ควรรับข้อมูลที่เขาส่งมาให้ แค่นี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว
ไม่ควรไปเจอเพราะเราไม่เคยเห็นหน้า
นี่เธออย่าเชื่อเขา มันอาจจะหลอกเราก็ได้การที่เราอยู่2 ต่อ2 อาจจะทำให้ผู้ชายเกิดอารมณ์ก็ได้นะเพื่อนคนนี้หวังดี
พูดออกไปตรงๆ ว่านัดเจอกันได้แต่ไม่ควรที่จะนัดเจอกันแค่ 2ต่อ2 ควรจะมีเพื่อนไปด้วยเยอะๆเพื่อความปลอดภัยและจะได้ไม่เขินอายกัน และไม่ควรที่จะไปมาหาสู่กันบ่อยจนเกินไปต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบหรือเพื่อนทราบ และควรศึกษากันให้นานๆ เพราะไม่ใช่แค่เราไม่ไว้ใจเขา เพราะเขาก็อาจไม่ไว้ใจเราด้วย
บอกเพื่อนว่าถ้าคุยกันในฐานะเพื่อนก็คุยได้ไม่เป็นไรแต่ถ้าจะนัดเจอกันมันไม่สมควรแต่ถ้านัดเจอกันแล้วเอาเพื่อนไปหลายคนเพื่อไม่ให้คนอื่นนิทราได้แต่เราก็ไม่ควรไปเชื่อเขา
ไม่ควรไปเจอเขาเป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้ และเพิ่งรู้จักกันไม่นานอย่าเพิ่งไปเจอเลยเพราะมันอันตรายโดยเฉพาะถ้าเป็นผู้หญิงยิ่งอันตรายมาก
ไม่ควรนัดเจอกันเพราะเพื่อนในfacebookเราไม่เคยรู้จักมาก่อนถ้าไปเจอกัน2ต่อ2 อาจเกิดอันตรายกับตัวเองควรคิดให้ดีหรือถ้าอยากเจอจริงๆๆให้ช่วนเพื่อนไปด้วยไม่ควรไปคนเดียว
ให้คำแนะนำว่าเรารู้จักเขามานานแค่ไหนเขาไว้ใจได้หรอไม่ใช่ว่าพูดดีแล้วจะไว้ใจได้และอาจมาหลอกลวงเราและไปพบแล้วไม่ใช่ว่าไม่ใช่คนอย่างที่เรานึกเอาไว้ก็ได้
ให้คำแนะนำว่าอย่าไปเจอเลยเพราะเราไม่รูัจักเขาอย่างจริงจัง นิสัยเขาเป็นอย่างก็ไม่รู้ หรือถ้าหากจะไปจริงๆควรไปกับเพื่อน
เวลาเราเล่นกับแล้วเราควรมีสติในการเล่นเวลาการที่เราจะนัดกันไปไหนเราควรจะรู้จักเข้าหั้ยมากดีก่อนถึงจะเป็นคนที่เราไว้ใจก็ตามบ้างครั้งคนที่เราไว้ใจไหนอาจทำหั้ยเราหลงผิดเวลาเราผิดผาดแล้วเราก็ต้องมานั้งเสียใจแต่ว่าตัวเราไม่เสียใจคนเดียวพ่อกับแม่เราเสียใจมากกว่าอีก
ไม่ต้องไปดีกว่าเพราะเรายังไม่ค่อยได้รู้จักกันดีพอ และนิสัยของเขานั่นอาจจะไม่ดีก็ได้
ไม่สมควรไปเพราะอาจโดนหลอกไปทำอย่างอื่นได้
จะไม่ปล่อยให้เพื่อนไปคนเดียวเราจะต้องไปเป็นเพื่อนเพราะมันอันตรายเกินไปถ้าจะปล่อยเขาไปกับคนแปลกหน้า2ต่ิอ2
ให้คำแนะนำว่า แน่ใจหรอว่าเขาไว้ใจได้แค่ไหน แล้วถ้าเราไปพบกับเขาแล้วอาจไม่เป็นอย่างที่เราคิด แล้วอาจเกิดอันตรายได้
ไม่ควรไปเจอหรือถ้าจะไปเจอก็ควรจะไปกันหลายๆๆคนไม่ควรไปคนเดียว
1. ไม่ควรไปเพรำะเราไม่รู้จักเขาอย่างแท้จริง ว่าเขาเป็นใครมาจากใหนเขาอาจจะหลอกลวงเราก็ได้2. ม่ควรไปติดต่อกับคนที่ไม่รู้จักและไม่ควรไปพบเจอกัน
3.ถ้าจำเป็นต้องไปจริงๆควรชวนเพื่อนๆไปด้วย
บอกเพือนว่าถ้าคุยในเฟสก็คุยได้ น๊ะเเต่ว่าถ้าเจอกันก็ระวังไว้บ้างควรจะพาเพื่อนคนรู้ใจไปด้วยน่ะ
กรณีที่ 1 ถ้านัดเจอกันแล้ว
-ควรบอกให้ผู้ปกครองทราบว่าจะไปที่ไหกับใคร
-แต่งตัวให้มิดชิด
-อย่าไปในสถานที่ที่เปลี่ยว ควรเลือกไปสถานที่ที่คนเยอะๆ
กรณี 2. บอกเพื่อนเราว่าอย่าไปเลยดีกว่าเพราะว่า เราไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรเพื่อนเราหรือเปล่า ประวัติเขาเป็นใครเราก็
ไม่รู้้ ต้องระวึงตัวไว้ก่อนก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ไม่ให้ไป เพราะเขาอาจจะเป็นคนที่ไม่ดีอาจจะคิดมิดีมิร้ายต่อนเพื่อนเรา แล้วถ้าเพื่อนเราอย่ากไปจริงๆ ให้ชวนเพื่อนๆไปด้วยเพื่อความปลอดภัยของเพื่อนเรา
ถ้าเพื่อนจะไปก็จะบอกให้เพื่อนว่าระวังตัวเองด้วยและจะให้ดีต้องมีเพื่อนไปด้วย